ในวันที่ 25 มีนาคม Travis Japan ได้ขึ้นแสดงที่ National Cherry Blossom Opening Ceremony ในรัฐวอชิงตัน ดี.ซี. โดยทาง Nante Japan มีโอกาสในการได้ไปที่วอชิงตันเพื่อดูการแสดงและสัมภาษณ์พิเศษ! ในบทสัมภาษณ์นี้ เราได้พูดคุยกันเกี่ยวกับการเดบิวต์ เสียงของแฟน ๆ ในอินเทอร์เน็ต ความหมายของดอกซากุระต่อตัวพวกเขา และอื่นๆ อีกมากมาย! ลองอ่านด้านล่างได้เลย!
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ชายฝั่งตะวันออกนะครับ! คุณเคยอยู่ในแอลเอมาก่อน พอได้มาที่ชายฝั่งตะวันออก / รัฐวอชิงตันครั้งแรกแล้วรู้สึกยังไงบ้าง?
อุมิ: เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่ต่างจากแอลเอโดยสิ้นเชิงเลย สถาปัตยกรรมที่นี่ก็ต่าง สภาพอากาศก็ต่าง อากาศที่นี่มีลักษณะคล้ายกับของญี่ปุ่นเลย แต่ดอกซากุระสวยดีนะ!
ตั้งแต่มาถึงที่นี่ได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง? ผมเห็นวิดีโอที่คุณแสดงในโรงเรียนมัธยมปลายเมื่อวานด้วย!
มัตสึคุ: สนุกมากเลย! เราไม่เคยมาที่โรงเรียนอเมริกันมาก่อนก็เลยรู้สึกตื่นเต้นมาก!
ชิเมะ: ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีนะ นักเรียนที่นี่ดูตื่นเต้นมาก!
จากะ: เราได้มีโอกาสไปที่สถานทูตญี่ปุ่นด้วยนะ!
มีอะไรเกิดขึ้นมากมายเลยในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมานับตั้งแต่ที่เราได้คุยกันในงาน Anime Expo! ยินดีด้วยนะครับกับ “America’s Got Talent”, “World of Dance” และการเดบิวต์! เรามาเริ่มคุยเรื่อง “AGT” กันก่อนดีกว่า! โมเมนต์ที่คุณประทับใจจากรายการนี้มีอะไรบ้าง? ประสบการณ์นี้สอนอะไรให้คุณบ้าง?
ชิสึ: สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากประสบการณ์ครั้งนี้มีความแตกต่างจากในญี่ปุ่นมากเลย โดยเฉพาะกับการเป็นศิลปินในค่าย Johnny’s และสิ่งที่เราได้รับจากในอเมริกา ผมรู้สึกขอบคุณมากที่เราได้มีโอกาสไปออกรายการโดยไม่มี Johnny’s คอยปกป้องเรา ทำให้เราได้เห็นศักยภาพของตัวเองอย่างแท้จริง ประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้ผมรู้สึกมีความหวังมากครับสำหรับการออกสู่ต่างประเทศ
โนเอรุ: การออดิชั่นในรายการนี้ถือเป็นครั้งแรกของพวกเราเลยครับที่ได้ไปออกรายการทีวีของอเมริกา น่าตื่นเต้นมากๆ! พอเราแสดงจบ ผู้ชมในฮอลล์ก็ต่างลุกขึ้นยืนปรบมือให้เรา มันเป็นอะไรที่ใหม่มาก เพราะเวลาที่เราแสดงในญี่ปุ่นผู้ชมจะต้องยืนตลอดเวลาอยู่แล้ว! แถมยังเป็นครั้งแรกเลยที่เรามีคนมาตัดสินผลงานของเรา โดยที่ผู้ชมต่างให้เสียงตอบรับเป็นอย่างดี นี่แหละครับคือโมเมนต์โปรดของผม
“World of Dance” เองก็ได้รีบเสียงตอบรับที่ดีเหมือนกันใช่ไหมครับ?
โนเอรุ: ในวันแรกของรอบชิงเราประหม่าสุด ๆ เลยครับ ชิสึ ไม่ได้มาด้วย แต่เราหกคนก็ผ่านมาได้และได้อันดับสี่ในอเมริกา! ส่งผลให้เราได้เข้าสู่รอบต่อไปในวันต่อมา เราแฮปปี้สุด ๆ! เรียกได้ว่าเราจะไม่มีวันลืมโมเมนต์นี้เลย
ก่อนและหลังเดบิวต์ต่างกันในเรื่องไหนมากที่สุด?
มัตสึคุ: เมื่อก่อนเราไม่ได้มีโอกาสปล่อยเพลงเลยครับ แต่ตอนนี้ได้ทำแล้ว!
อุมิ: ได้มีโอกาสทักทายแฟน ๆ แล้วก็ได้มีคอนเสิร์ตเดบิวต์เป็นของตัวเองด้วย!
ไหน ๆ ก็พูดถึงคอนเสิร์ตแล้ว เราได้ข่าวมาว่าคุณเพิ่งจัดทัวร์ในประเทศญี่ปุ่นไป ข้อจำกัดที่เคยมีก็ถูกยกเลิกไป ทำให้แฟน ๆ สามารถเชียร์ได้อย่างเต็มที่แล้ว คุณรู้สึกยังไงบ้างครับ?
จากะ: พวกเราดีใจมากเลยครับ! เสียงกรี๊ดของแฟน ๆ ทำให้เรามีพลังและเล่นได้ดีมากขึ้น เรื่องนี้สำคัญมากจริงๆ!
คุณรู้สึกยังไงบ้างครับที่ได้แสดง “JUST DANCE!” ซิงเกิลเดบิวต์เป็นครั้งแรกต่อหน้าแฟนๆ?
โนเอรุ: แฟน ๆ ของเราทุกคนลุกขึ้นและเต้นท่า Piro-bun ไปพร้อมกับเราด้วยครับ! รู้สึกดีมากเลย! พวกเขาฝึกซ้อมกันมาจากที่บ้านก่อนมาคอนเสิร์ต เรามีชีวิตอยู่ก็เพื่อสิ่งนี้เลย!
ในตอนที่ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับ King & Prince พวกเขาบอกว่าตอนที่อัดเพลง “Namae Oshiete” ขั้นตอนการอัดเพลงของที่อเมริกาแตกต่างจากญี่ปุ่น คุณเห็นด้วยไหมครับ?
เก็นตะ: ส่วนตัวแล้วผมศึกษาขั้นตอนการอัดเพลงของ “Namae Oshiete” มาอยู่ครับเพราะผมชอบเพลงนี้มากๆ พอได้ทำแบบนี้ก็ถือเป็นการเตรียมพร้อมเพื่ออัดเพลง “JUST DANCE!” ของเราด้วย สไตล์การอัดเพลงของที่นี่แตกต่างจากของญี่ปุ่นจริงครับ ในอเมริกาจะเป็นแบบลองผิดลองถูกและปล่อยไหลไปตามอารมณ์ สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรก็ตามได้ในทันที สไตล์แบบนี้เหมาะกับ Travis Japan มากกว่าเพราะที่ Johnny Kitagawa ก็ทำแบบนี้ ความสามารถในการปรับตัวได้อย่างรวดเร็วคือสิ่งที่จะทำให้ Travis Japan เติบโตไปได้ไกลมากยิ่งขึ้น
โนเอรุ: ในญี่ปุ่น เพลงเวอร์ชันเดโม่และเวอร์ชันเต็มจะมีลักษณะที่คล้ายกัน แต่ที่อเมริกาไม่ใช่แบบนั้นครับ และในญี่ปุ่นเขาจะตั้งเป้าไว้เลยว่าเพลงจะต้องฟังดูเหมือนเวอร์ชันเดโม่ แต่ในอเมริกา ถ้าเราทำอะไรที่ต่างจากเดิมโดยไม่ได้ตั้งใจแล้วมันดี โปรดิวเซอร์ก็จะบอกว่า “โอ้ ดีเลยนะเนี่ย! เก็บอันนี้ไว้ใช้ดีกว่า!” ซึ่งเรื่องแบบนี้เป็นไปไม่ได้เลยในญี่ปุ่น
จากะ: เก็นตะ กับ โนเอรุ พูดถูกนะ แต่ผมคิดว่ามันขึ้นอยู่กับโปรดิวเซอร์แต่ละคนมากกว่า เราอยากทำงานกับโปรดิวเซอร์หลาย ๆ คนครับ
ยกตัวอย่างได้ไหมครับว่าใคร? ถ้านึกไม่ออกก็เอาเป็นศิลปินที่คุณอยากทำในสไตล์นั้นก็ได้ครับ
จากะ: Babyface ครับ ผมชอบผลงานในเพลง“Namae Oshiete.” มากๆ
ชิสึ: ผมอยากทำเพลงสไตล์ Justin Timberlake ครับ
เก็นตะ: ส่วนผสมอยากทำแบบ Harry Styles
อุมิ: ผมอยากร่วมงานกับ Lizzo ครับ ผมชอบบุคลิกและเสียงของเธอ เธอมีพลังเยอะมาก ฟังแล้วทำให้ผมมีพลังไปด้วยเลย!
โนเอรุ: Koji Makaino ครับ เขาทำเพลงให้กับค่าย Johnny’s มาแล้วหลายเพลงเลย! เราเคารพและอยากร่วมงานด้วย แล้วก็อีกคนคือ Hyadain ครับ เขาจะเป็นสายทำเพลงอนิเมะที่เป็นส่วนสำคัญในวัฒนธรรมญี่ปุ่น เราอยากร่วมแบ่งปันวัฒนธรรมญี่ปุ่นให้คนทั้งโลกได้รับรู้ครับ เราอยากทำเพลงประกอบอนิเมะ!
ชิเมะ: แนวเพลงที่ผมคือฮิปฮอปครับ แต่ผมก็อยากทำสไตล์ Harry Styles กับ Justin Bieber เหมือนกัน
มัตสึคุ: ผมอยากทำเพลงแร็ปครับ น่าจะเป็นอะไรที่ใหม่มาก ๆ สำหรับ Travis Japan ในการได้ทำงานเหมือนแร็ปเปอร์อย่าง Dr. Dre หรือ Kendrick Lamar
การเดบิวต์ของคุณแตกต่างจากเดบิวต์ของศิลปินคนอื่น ๆ ในค่ายมากเลย เช่น การเน้นโปรโมตบนโซเชียลมีเดียมากกว่าการโปรโมตในทีวีทั่วไป คุณคิดยังไงกับ “การเดบิวต์แบบเน้นสื่อดิจิทัล” แบบนี้ครับ?
จากะ: เราแฮปปี้ดีครับ เพราะสามารถเข้าถึงแฟน ๆ ได้จากทั่วโลกเลย ถือเป็นโอกาสที่ดีมาก ๆ และเรารู้สึกเป็นเกียรติจริง ๆ ที่ได้รับโอกาสนั้นครับ
นับตั้งแต่เดบิวต์มา พวกคุณเป็นวงแรกของค่าย Johnny’s เลยที่โปรโมตผ่านช่องทางดิจิทัลเท่านั้นโดยเน้นไปที่บริการสตรีมมิ่งมากกว่าการขายแผ่นซีดี รู้สึกยังไงบ้างครับ?
ชิสึ: การที่เพลงเราอยู่บนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเป็นการเปิดโอกาสให้คนทั้งโลกสามารถฟังเพลงเราได้ ซึ่งเราแฮปปี้ในจุดนี้มากๆ ครับ! แผ่นซีดีก็ยังสำคัญอยู่ เราก็เลยอยากทำแผ่นซีดีด้วยในอนาคต
เก็นตะ: Travis Japan ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นการทดลองแผนในแบบที่ในค่ายไม่เคยทำมาก่อนครับ การได้มีโอกาสเป็นวงแรกที่ทำแบบนี้ในค่าย Johnny’s เป็นเหมือนกันสานต่อในสิ่งที่เราทำมาอยู่แล้ว
มีอะไรอยากโชว์ให้กับแฟน ๆ ที่เพิ่งมาติดตามไหมครับ?
โนเอรุ: คุณจะได้เห็นบุคลิกนิสัยของแต่ละคนมากขึ้นในแชนแนล YouTube ของเราครับ ถ้าอยากดูบทบาทศิลปินก็ขอเชิญที่ Instagram ได้เลย
ชิเมะ: และถ้าอยากเห็นมุมตลกโปกฮาก็ขอเชิญที่ TikTok ครับ!
การเป็นศิลปินในทุกวันนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร คุณมีวิธีโฟกัสกับสิ่งที่ทำอย่างไรบ้างครับ?
จากะ: เราเชื่อมั่นในอนาคตและแฟน ๆ ของเราครับ เราอยากทำให้แฟน ๆ และคนทั้งโลกของเรามีความสุข
ชิเมะ: เราจะมากล้า ๆ กลัว ๆ กับการก้าวต่อไปไม่ได้หรอก! ต้องมั่นใจในตัวเองเข้าไว้ครับ!
มาถึงคำถามสนุก ๆ กันบ้าง คำถามนี้มาจากผู้อ่านของเราที่อยากถาม เก็นตะ ครับ ด้วยความที่ภาพยนตร์ของเขาเพิ่งเข้าโรงเมื่อไม่นานมานี้ในรัฐวอชิงตัน คำถามก็คือ ในสมัยที่คุณยังเป็นเด็กฝึก คุณเคยแทะกระเป๋าเงินของ Matsumura Hokuto จากวง SixTONES มีอะไรที่อยากแก้ตัวไหมครับ?
เก็นตะ: ก็มันวางอยู่ตรงนั้นแล้วดูน่ากินอะครับ ใครจะอดใจไหว!
ปีนี้มีเป้าหมายเล็ก ๆ บ้างไหมครับ?
จากะ: เราอยากปล่อยซิงเกิลที่สองครับ
มัตสึคุ: เราอยากปล่อยอัลบั้มด้วย!
โนเอรุ: พูดแบบนี้อาจจะเร็วเกินไป แต่เรามีฝันใหญ่ ๆ อย่างการได้รางวัล Grammy ด้วยครับ!
จากะ: รางวัลโทนี! แล้วก็ออสการ์!
ต่อไปอยากแสดงที่ไหนในอีกครับนอกจากญี่ปุ่น?
โนเอรุ: เราอยากไปทวีปเอเชียครับ อย่างอินโดนีเซีย ไต้หวัน หรือฟิลิปปินส์ เราเคยไปสิงคโปร์กับฮ่องกงแล้วมันดีมาก! ผมเคยไปอินโดนีเซียมาแล้วเมื่อห้าปีก่อนแล้วดีเหมือนกัน ก็เลยอยากไปอีก
ซิงเกิลต่อไปอยากทำอะไรเป็นพิเศษไหมครับ?
ชิเมะ: อยากทำเยอะเลยครับ เราอยากแชร์เพลงให้คนได้ฟังกันเยอะ ๆ ผ่านทาง YouTube ทีวี โซเชียลมีเดีย และอยากกลับขึ้นชาร์ต Billboard เหมือนที่เคยทำได้กับเพลง “JUST DANCE” ด้วย!
อุมิ: เราอยากกลับไปออกรายการทีวีของอเมริกาอีกครับ!
งานเทศกาล National Cherry Blossom Festival เป็นการรำลึกถึงมิตรภาพทางประวัติศาสตร์ระหว่างญี่ปุ่นและอเมริกา และในตอนนี้คุณก็เป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองในครั้งนี้ด้วย รู้สึกยังไงบ้างครับ?
เก็นตะ: เรารู้สึกเป็นเกียรติมากครับ อยากให้ผู้ชมของเราทุกคนที่นี่มีความสุขไปด้วยกัน!
ไหน ๆ ก็อยู่ที่งาน National Cherry Blossom Festival แล้ว ช่วยบอกได้ไหมครับว่าดอกซากุระมีความหมายกับพวกคุณยังไงบ้าง?
อุมิ: ผมเกิดเดือนเมษายนครับ ดอกซากุระก็เลยเป็นดอกประจำวันเกิดของผม
เก็นตะ: ดอกซากุระคือส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมญี่ปุ่น มีส่วนที่สวยงามมากมายเลย
ชิสึ: ดอกซากุระคือสัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นใหม่ครับ ในช่วงเวลานี้ของปี คนในญี่ปุ่นจะเริ่มเรียนจบและเริ่มต้นทำงานใหม่
จากะ: Travis Japan คือดอกซากุระครับ ดอกซากุระคือสัญลักษณ์ประจำชาติญี่ปุ่นที่มอบให้กับอเมริกา รวมถึงดอกซากุระเติบโตจากที่นี่เหมือนกับเราด้วย เราอยากเติบโตที่นี่และเผยแพร่วัฒนธรรมญี่ปุ่นเหมือนดอกซากุระ นี่แหละคือเหตุผลสำหรับความเป็น Travis Japan ครับ!
โนเอรุ: จากะ พูดดีมาก เพราะแบบนี้ไงนายถึงได้เป็นลีดเดอร์ของวง!